ชาวเน็ตแห่แชร์ภาพและ คลิปน้ำท่วมโซล เมืองหลวงเกาหลีใต้ หลังฝนถล่มอย่างหนัก ส่งผลให้เมืองจมบาดาล มีรายงานผู้เสียชีวิต 7 ศพ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม สำนักข่าว ชาแนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า น้ำท่วมกรุงโซล หลังจากที่ทั่วประเทศเกาหลีใต้เผชิญกับฝนตกอย่างหนัก ส่งผลให้เมืองจมบาดาล รถยนต์จมน้ำ และนำไปสู่การแชร์ภาพและคลิปน้ำท่วมโซลกันอย่างวงกว้าง เนื่องจากเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย
เบื้องต้นมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุกรุงโซลน้ำท่วมแล้ว 7 ศพ บาดเจ็บ 9 ราย และสูญหายอีก 6 ราย เบื้องต้นคาดว่าฝนจะตกลงมาเพิ่มขึ้นอีก
สำนักข่าว ยอนฮัป สื่อในประเทศเกาหลีใต้รายงานถึงเหตุน้ำท่วมเกาหลีใต้ว่าเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ฝนตกบริเวณตอนกลางของเกาหลีใต้เป็นปริมาณกว่า 170 มิลลิเมตร โดยในช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของเกาหลีใต้ กรุงโซลมีรายงานฝนตกขนาด 90.5 มิลลิเมตร ขณะที่ย่านทงจัก ตอนใต้ของกรุงโซลมีปริมาณฝน 137 มิลลิเมตร ต่อชั่วโมง ถือเป็นปริมาณเม็ดฝนที่มากที่สุดในทตศวรรษ
จากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักครั้งนี้ ส่งผลให้น้ำท่วมถนน รวมถึงสถานีรถไฟใต้ดิน ปิดกั้นการสัญจร รวมไปถึงไฟดับในบางพื้นที่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้สั่งอพยพประชาชนกลุ่มเสี่ยงหนีน้ำท่วมโซล รวมไปถึงประชาชนนอกเมืองหลวงที่อาศัยใกล้ป่าก็ควรจะอพยพเช่นเดียวกัน เนื่องจากมีโอกาสที่จะเกิดดินถล่ม
ขณะที่ชาวเน็ตได้แห่แชร์ภาพและคลิปน้ำท่วมโซล กันเป็นจำนวนมาก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ปลดร้อยตรี พงศกร บุญส่ง พร้อมเรียกคืนเครื่องราชฯ ฐานผิดวินัยร้ายแรง มีผลแล้ววันนี้ เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ปลด ถอดยศทหาร ร้อยตรี พงศกร บุญส่ง เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ทุกชั้นตรา ฐานผิดวินัยร้ายแรง
ภายในพระบรมราชโองการ ระบุว่า “พระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ปลดนายทหารสัญญาบัตรออกจากราชการและถอดออกจากยศทหาร พร้อมเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ทุกชั้นตรา
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 และมาตรา 15 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ประกอบมาตรา 4 และมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ ในพระองค์ พ.ศ.2560 มาตรา 9 มาตรา 10 มาตรา 13 และมาตรา 15 แห่งพระราชกฤษฎีกา จัดระเบียบราชการและการบริหารงานบุคคลของราชการในพระองค์ พ.ศ.2560 มาตรา 5 และมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยทหาร พุทธศักราช 2476 และมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติยศทหาร พุทธศักราช 2479
สถานทูตสวีเดน เผย สวัสดิการพนักงาน : ลาเลี้ยงลูก 6 เดือน พร้อมรับค่าจ้าง
สถานทูตสวีเดน ประจำประเทศไทย ทำการเปิดเผยถึง สวัสดิการพนักงาน ที่ทางสำนักงานเปิดให้สามารถลาเลี้ยงลูก 6 เดือน พร้อมรับค่าจ้างในช่วงลาได้ (8 ส.ค. 2565) สถานทูตสวีเดน ประจำประเทศไทย ได้ทำการเผยแพร่เรื่องราวของ สวัสดิการพนักงาน ที่ไม่จำกัดแค่พนักงานประเทศตัวเองเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงพนักงานท้องถิ่นด้วย โดยในคราวนี้เป็นเรื่องราวของพนักงานขับรถประจำสำนักงานที่ได้รับสิทธิที่ว่าด้วยเช่นกัน
สิทธิที่ทางสถานทูตได้ชูนั้นก็คือ สิทธิในการลาเลี้ยงดูบุตรสำหรับผู้เป็นพ่อ ที่คุณสมชาติ สุชีเพ็ชร พนักงานขับรถยนต์ของสถานทูต เป็นระยะเวลา 30 ปี ทำการใช้งานสิทธิดังกล่าว ที่เปิดให้พนักงานสามารถลางานเป็นระยะเวลา 6 เดือน และในระหว่างนั้นก็จะยังคงสามารถรับเงินเดือนได้ด้วย
นอกจากสิทธิดังกล่าวแล้วนั้น ทางสถานทูตก็ยังมีสิทธิอื่น ๆ ให้แก่พนักงานด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น
– การลาเพื่อดูแลบุตรอายุต่ำกว่า 10 ปี ที่ป่วยจำนวน 10 วัน ต่อเด็กหนึ่งคน ต่อปี
– การลาพักผ่อนจำนวน 28 วัน ต่อปี
– วันหยุดราชการจำนวน 13 วันต่อปี
และสิทธิพิเศษเล็ก ๆ อย่าง ‘ฟิก้า’ หรือการพบปะกันเพื่อดื่มกาแฟหรือชา พร้อมกับของหวานแบบสวีเดนทุก ๆ วันศุกร์อีกด้วย โดยสิทธิที่กล่าวมานั้นก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในนโยบายของสถานทูตที่ใช้ปฏิบัติทั่วโลก
ทางสถานทูตยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ลูกจ้างของสถานทูตสวีเดนทั่วโลกได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เพราะเราเชื่อมั่นว่าสภาพการจ้างงานที่ดี ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง รวมทั้งความมุ่งมั่นในการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศโดยรวม
พร้อมทั้งยังได้กล่าวสั่งลาพักเลี้ยงลูกให้แก่คุณสมชาติด้วยเช่นกัน
ในนามของสถานทูตสวีเดน เราขอให้คุณสมชาติโชคดี มีความสุขตลอดระยะเวลาการลาเลี้ยงดูบุตรนี้ รวมทั้งขอให้ภรรยาคลอดบุตรอย่างปลอดภัยในอนาคตอันใกล้นี้ ! เราจะระลึกถึงและส่งความรักและความปรารถนาดีแก่ทั้งสองในช่วงของการลานี้
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป
