นะหน้าทอง คืออะไร ตีแผ่ความเชื่อยอดนิยมล่าสุด ทั้งประวัติ ที่มา ช่วยได้จริงหรือไม่ ทำไมคนไทยแห่ไป ‘ลงนะ’ เสริมดวงสู้พิษเศรษฐกิจจนวัดแตก ความเชื่อกับคนไทยเป็นอะไรที่คู่กัน ล่าสุดกับกระแส “นะหน้าทอง” หลายคนอาจอยากรู้ว่า นะหน้าทอง คืออะไร ทำไมอยู่ ๆ จึงกลายเป็นที่นิยม เนื่องจากเกิดกระแสผู้คนแห่ไปที่วัดศาลาลี ตำบลบางไผ่ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี จนล่าสุดเจ้าอาวาสต้องประกาศงดรับลงนะหน้าทองกันแล้ว ความเชื่อนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร ตามไปทำความเข้าใจพร้อมกับ The Thaiger กันได้เลย
นะหน้าทองคืออะไร?
นะหน้าทอง โดยแท้จริงแล้วเป็นศาสตร์การเสริมบารมีด้วยการ “สักหมึกลงขม่อม” ด้วยอักษรขอมลงบนแผ่นทองคำเปลว จากนั้นผู้จารจะปลุกเสกโดยการท่องคาถา บางตำราก็ว่าการลงนะหน้าทองนั้นเป็นวิชาทางไสยศาสตร์ชั้นสูงที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธคุณ บางตำราก็ว่าเป็นศาสตร์ชั้นสูงในลัทธิพราหมณ์ ซึ่งถูกส่งต่อความเชื่อผ่านวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ จาก พระลักษณ์ ผู้ซึ่งเป็นภาพแทนของผู้เป็นที่รัก ได้รับความเมตตา นั่นเอง
นะหน้าทอง ช่วยเรื่องใดบ้าง?
เชื่อกันว่านะหน้าทองจะช่วยเสริมเมตตามหาเสน่ห์ มีคนรักใคร่เอ็นดู มีโชคลาภ เสริมบุญวาสนาแก่ผู้ที่ลงนะ รวมถึงขจัดอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นในชีวิต และช่วยให้ค้าขายเจริญรุ่งเรืองอีกด้วย
เหตุใดต้องใช้ทอง?
เพราะเชื่อกันว่า ทองคำเปลวบริสุทธิ์ ถือเป็นของสูง เป็นภาพแทนของความดีงามที่ไม่มีวันเสื่อมคุณค่า อีกทั้งทองก็เป็นธาตุที่มีแสงสว่างในตัว โดยการซึมซับเอาแสงพระอาทิตย์และพระจันทร์ไว้ในตัวของมันเองตามธรรมชาติ ด้วยเหตุผลเหล่านี้จึงเชื่อกันว่าการลงนะหน้าทองจะช่วยเสริมสิริมงคลได้นั่นเอง
นะหน้าทอง ลงได้เพียงที่หน้าเท่านั้นจริงหรือไม่?
ถึงแม้จะเรียกกันว่า ลงนะหน้าทอง ที่ส่วนใหญ่นิยมลงที่หน้าผากหรือลงเต็มทั้งใบหน้า แต่จริง ๆ แล้วยังสามารถลงที่ร่างกายได้อีกหลายตำแหน่ง ดังนี้ หน้าผาก กระหม่อม เปลือกตา แก้ม กราม ลิ้น คาง ติ่งหูทั้งสองข้าง ท้ายทอย
นะหน้าทอง ข้อเสีย ข้อห้าม มีหรือไม่?
นะหน้าทอง คือการเสริมมงคลให้ชีวิต เป็นการเสริมบารมีให้แก่ผู้ที่ลงนะ จึงไม่ส่งผลเสียใด ๆ ค่ะ แต่มีข้อปฏิบัติและข้อห้ามที่ผู้ลงนะควรปฏิบัติ แต่ทั้งนี้ก็จะแตกต่างกันไปตามความเชื่อที่แต่ละสำนักยึดถือ ดังนี้
ให้หมั่นรักษาศีล 5 หมั่นทำบุญทำทาน ห้ามให้คนเล่นหัว ห้ามพูดคำหยาบ ห้ามดุด่าบุพการี ห้ามทานของเหลือจากคนอื่น รวมถึงห้ามใช้ช้อนส้อม แก้วน้ำร่วมกับผู้อื่น ห้ามทานของจากงานศพ หรือของเซ่นไหว้ ห้ามลอดราวตากผ้า ห้ามบ้วนน้ำลายลงโถส้วม ห้ามลอดใต้ถุนบ้านที่มีศพอยู่ในบ้าน อีกหนึ่งมุมของการลงนะหน้าทอง
แม้นะหน้าทองจะเป็นที่นิยมในปัจจุบันนั้น แต่เคยมีข้อมูลโดยคุณภาษิต จิตรภาษา ผู้เชี่ยวชาญภาษาไทย ได้เคยกล่าวอธิบายไว้เมื่อปี 2540 ว่า
การนำทองคำเปลวไปปะบนหน้าแล้วใช้เหล็กจารเขียนดังเช่นคนส่วนใหญ่เห็น มิใช่การลงนะตามอย่างความหมายที่แท้จริง แม้การทำเช่นนี้มันช่วยให้เห็นได้ชัดเจนถึงความขลังและความศักดิ์สิทธิ์ แต่ความจริงแล้วความศักดิ์สิทธิ์ของนะที่ลงไว้จะคงอยู่ไม่นาน เพราะเมื่อล้างหน้าก็ถูกล้างออกไปหมดแล้ว
ดังนั้นแล้วจึงอาจสรุปได้ว่า การลงนะหน้าทอง ถือเป็นหนึ่งในความเชื่อที่ช่วยเสริมมงคลให้แก่ผู้ที่ศรัทธา แต่ทั้งนี้ก็ควรมีความขวนขวายด้วยตนเอง ไม่เอาแต่อยู่นิ่งเฉย และใช้สติ มองความจริงควบคู่ไปด้วย เพราะหากเชื่อแต่ไม่ลงมือทำอะไร นะหน้าทองอันศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อก็มิอาจช่วยให้ชีวิตเราก้าวหน้าไปได้อย่างที่ใจต้องการ
หนุ่มผ่าแตงโมไม่เป็น ใช้อีโต้สับ เมียบ่นเสียของ สุดท้ายเขิน
เขินทั้งโซเชียล! คลิป Tiktok หนุ่มผ่าแตงโมไม่เป็น ใช้อีโต้สับเฉียง เมียบ่นแบบนี้เสียของ สุดท้าย ผ่าเสร็จ ทำเอาเขินทั้งเมียทั้งคนดู เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 65 ผู้ใช้ Tiktok@praisonson โพสต์คลิปขณะตนกำลังใช้มีดอีโต้ผ่าแตงโม โดยมีภรรยานั่งดูอยู่ข้างๆ โดยคลิปนี้เขาใส่ข้อความประกอบไว้ชัดเจนว่า “ไม่เคยผ่าแตงโม” พร้อมบอกในคลิปว่า ตนไม่เคยผ่าแตงโมมาก่อน ผ่าไม่เป็น นี่เป็นการผ่าแตงโมครั้งแรก
พร้อมถามภรรยาตลอดทั้งคลิปว่าผ่ายังไง และใช้มีดอีโต้สับจึ้กเเบบเฉียงบนแตงโม ภรรยาถึงกับอุทานว่า “แบบนี้ไม่ใช่ ทำผิดแล้ว แบบนี้เสียของ”
หลังจากผ่าไปเรื่อยๆ ภรรยาก็บ่นไม่หยุด ว่าผ่าอะไร เสียของหมดแล้ว แต่หลังจากผ่าเสร็จ เขาเอาแตงโมผ่าเฉียงทั้งสองด้านมาประกบกันเป็นรูปหัวใจ พร้อมถามภรรยาว่า “แตงโมแบบนี้ ทานได้ไหม” งานนี้พาภรรยาทั้งเขินทั้งขำ อุทานว่า “ตาบ้า”
หลังโพสต์นี้ถูกแพร่กระจายออกไป ชาวโซเชียลต่างแห่กันเข้ามาดูคลิปนี้ โดยยอดวิวขณะนี้ ทะลุไปถึง 4 ล้านวิว รวมถึงมีคอมเมนต์จำนวนมากชวนภรรยาในคลิปเขินเพิ่มไปด้วย เช่น “เป็นการบอกรักที่ครีเอทมาก น่ารัก”
ใครที่สนใจเข้าชม Museum of First Time สามารถเข้าไปรับประสบการณ์ได้ที่ www.museumof1sttime.com ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ แล้วอย่าลืมช่วยกันแชร์ช่วยกันเป็นกระบอกเสียงให้ผู้หญิง และบอกผู้ชายที่เคยหรือกำลังใช้ความรุนแรงกับผู้หญิง ให้ยุติความรุนแรงในเพศหญิงไปพร้อมๆ กัน