ทนายตั้มพาซีอีโอสาว ร้องผู้ว่าฯ ปมสามีย่องจดทะเบียนผู้ใหญ่บ้านสาวคนดัง

ทนายตั้มพาซีอีโอสาว ร้องผู้ว่าฯ ปมสามีย่องจดทะเบียนผู้ใหญ่บ้านสาวคนดัง

ทนายตั้มพา ซีอีโอไทบ้าน ร้องผู้ว่าฯ ปมสามีแอบไปจดทะเบียนกับผู้ใหญ่บ้านสาวคนดัง จ.บึงกาฬ เตรียมตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินระหว่างคบกัน ปมปัญหา ซีอีโอบริษัทไทบ้านขอปรึกษาทนายตั้ม ปมสามีแอบไปจดทะเบียนสมรสกับผู้ใหญ่บ้านสาวคนดัง จ.บึงกาฬ เรื่องนี้ต้องย้อนไป ก่อนหน้านี้ (12 ม.ค.65) ทนายตั้ม ออกมาเปิดเผยว่า ได้มีซีอีโอบริษัทไทบ้านทีวี มาขอปรึกษาเรื่องสามีที่อยู่กินกันมา 10 กว่าปี มีลูก 1 คน แอบไปจดทะเบียนสมรสกับผู้ใหญ่บ้านสาวคนดัง จะมีสิทธิร้องเรียนอะไรได้บ้าง

จากนั้นวันถัดมาฝ่ายชาย ก็ออกมาโพสต์ชี้แจง ระบุว่า “วันนี้ขอพูดบ้าง” 

คนเจ็บกับคนเจ็บ​มาเจอกัน ผมโดนเขาทิ้ง เขาอยากเลิกกับผม แบ่งทรัพย์สิน​กับผม ผลักไสให้ผมออกไปจากชีวิต มีไม่กี่เรื่องหรอกที่ผู้ชายจะรับไม่ได้ เขาทราบความจริงดี” อ่านโพสต์ฉบับเต็ม

ต่อมาอ้างอิงรายงานจากอมรินทร์ทีวี ระบุ แม่ของผู้ใหญ่สาว ยืนยันว่าการคบหาระหว่างลูกสาวกับฝ่ายชายอยู่ในสายตาของครอบครัวทั้ง 2 ฝั่ง เพราะฝ่ายชายก็เข้ามาแนะนำตัวอย่างเป็นทางการไปแล้ว ก่อนที่จะมีการจดทะเบียนสมรสกัน ซึ่งการจดทะเบียนสมรสกันนั้นตนก็รับรู้ พ่อของผู้ใหญ่สาวก็รับรู้

ด้าน นายธีระพล ขุนพานเพิง นายอำเภอเมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ผู้บังคับบัญชาของผู้ใหญ่เหมียว กล่าวว่า หลังจากเป็นข่าวก็ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พบว่าด้วยหลักของกฎหมาย ผู้ใหญ่สาวได้มีการจดทะเบียนกับฝ่ายชายอย่างถูกต้อง และในอดีตทั้งคู่ก็ไม่เคยผ่านการจดทะเบียนสมรสกับใครมาก่อนด้วย เพราะฉะนั้นจึงเป็นสิทธิ์ที่ทั้งคู่สามารถทำได้ อีกทั้งการเลิกราของฝ่ายชายกับอดีตภรรยาก็มีผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายรับทราบ ดังนั้นหมายความว่าผู้ใหญ่เหมียวไม่ได้พฤติกรรมตัวผิดศีลธรรมจรรยาบรรณแต่อย่างใด จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดวันนี้ (18 ม.ค.65) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์ในเฟซบุ๊กแฟนเพจ ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ถึงกรณีซีอีโอสาวร้องสามีไปจดทะเบียนสมรสกับผู้ใหญ่บ้านสาวสวยคนดังในจ.บึงกาฬ โดยได้เดินทางไปพร้อมซีอีโอสาว ร้องขอความเป็นธรรมกับผู้ว่าฯบึงกาฬในประเด็นนี้

“วันนี้ผมและคุณมน CEO แห่งไทบ้านที่กำลังมีประเด็นร้อนแรงในสังคมเรื่องสามีไปจดทะเบียนกับผู้ใหญ่บ้านคนดัง ได้มาร้องเรียนกับท่านผู้ว่าฯที่จังหวัดบึงกาฬเป็นที่เรียบร้อย ในเนื้อความคำร้องเรียน กล่าวโทษและมีหลักฐานมากมาย ทั้งภาพถ่าย และคลิปจากสำนักข่าวต่างๆ ที่แม่ของผู้ใหญ่บ้านยืนยันว่า สามีไปมาหาสู่ และรับรู้เป็นอย่างดีว่าเค้าคบหากันมาเป็นปี ซึ่งขัดแย้งกับความเป็นจริงที่คุณมน ยังอาศัยอยู่กินฉันท์สามีภรรยากับคุณรักแท้ คำกล่าวอ้างที่ว่าเลิกรากันไปแล้ว ไม่เป็นเรื่องจริงแต่อย่างใด มีแต่การทะเลาะกันที่เป็นเรื่องปกติ เพราะสามี มีพฤติกรรมที่ทำให้คุณมนเกิดความหึงหวงจึงปะทะกันบ้างตามประสา และก็ให้อภัยมาตลอด เพราะไม่อยากให้ครอบครัวแตกแยก คุณมนมีภาพถ่ายมากมาย ที่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงนี้ได้ว่ายังคบหากันอยู่”

“สิ่งที่น่าเจ็บปวดคือ หลังไปทานข้าวกันสามแม่ลูกอย่างอบอุ่นก่อนคริสมาสต์ไม่กี่วัน สามีก็ไปจดทะเบียนสมรสกับผู้ใหญ่บ้าน ตัวคุณมนมาทราบเรื่อง พร้อมกับทุกคนในวันที่ 8 ม.ค. หลังสามีโพสต์ทะเบียนสมรส ซึ่งสิ่งนี้ทำร้ายจิตใจคุณมนและลูกอย่างแสนสาหัส หลังจากนี้จะมีการตรวจสอบบัญชีโดยละเอียด ว่าทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างคบกันของผู้ใหญ่บ้าน เกินกำลังที่เงินเดือนราชการจะจ่ายไหวทั้งหมด มาจากน้ำพักน้ำแรงของผู้ใหญ่บ้านเอง หรือเกิดจากทรัพย์สินร่วมกันที่คุณมนและสามีหามาด้วยความยากลำบาก #ช้าๆแต่ข้อมูลแน่น #ไม่จริงตรงไหนเอาปากกามาวง”

ผงะ! ซื้อไอศกรีมยี่ห้อดังฝากหลาน แต่ดันเจอ’ซากจิ้งจก’นอนแช่แข็ง

ซื้อไอศกรีมยี่ห้อดังฝากหลาน หนุ่มกระบี่อึ้ง เจอ ซากจิ้งจก เชื่อมาจากกระบวนการผลิต เพราะบรรจุภัณฑ์ไม่มีร่องรอยฉีกขาด ซื้อไอศกรีมโคน แต่ดันเจอ ซากจิ้งจก นอนแช่แข็งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 17 ม.ค.2565 โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “ประภาพร เขาทอง” ได้นำภาพไอศกรีมยี่ห้อดัง มาโพสต์พร้อมระบุข้อความว่า “ซื้อไอติม ได้ของแถม” ของแถมที่ว่าก็คือ ซากจิ้งจกตัวหนึ่ง นอนแข็งตายสภาพมีเกล็ดน้ำแข็งเกาะอยู่ตามตัวจิ้งจก นอนตายอยู่บนไอศกรีมแบบโคน รสโอวัลติน ของบริษัทผู้ผลิตไอศกรีมยี่ห้อดัง

รยางานจาก ไทยรัฐ ทราบว่าผู้ที่นำเรื่องดังกล่าวมาโพสต์ คือ นายสมบัติ อายุ 47 ปี เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยเจตนาที่ถ่ายภาพแล้วโพสต์ลงโซเชียลเพื่อเตือนผู้บริโภคทั่วไป ให้ตรวจสอบของกินที่ซื้อทุกครั้ง เพราะไม่อย่งานั้นอาจเจอสิ่งแปลกปลอมแบบเคสของเขาได้

โดยเรื่องนี้เริ่มจากตนออกไปซื้อของใช้ที่ร้านค้าใกล้บ้าน พอซื้อของเสร็จก็เหลือเศษเงินอยู่จึงเลือกซื้อไอศกรีมยี่ห้อดัง เป็นไอศกรีมโคน จะเอามาฝากหลาน พอกลับมาถึงบ้าน ก็เอาไอศกรีมให้หลานสาวทั้ง 2 คน

คนเล็กแกะออกกินปกติดี ไม่มีสิ่งแปลกปลอม แต่ไอศกรีมของหลานคนโต พอแกะออกดูก็พบกับซากของจิ้งจกดังกล่าว ในสภาพแข็งมีเกล็ดน้ำแข็งเกาะอยู่ตามตัว ทีแรกหลานสาวบอกว่าเป็นหนอน แต่พอดูใกล้ ๆ ก็พบเป็นจิ้งจก จึงบอกหลานไม่ให้กิน ให้เอาไปทิ้ง เพราะกลัวว่ากินไปอาจจะท้องเสีย

นายสมบัติ ยืนยันว่า ก่อนหยิบไอศกรีมก็ตรวจสอบอย่างดี ว่ามีการแพ็ก บรรจุหีบห่ออย่างดี ไม่มีรูรั่วหรือรอยเปิด สภาพเหมือนปกติทั่วไป ดังนั้นจึงอยากฝากถึงบริษัทผู้ผลิตสินค้าทุกราย ให้ตรวจสอบสินค้าก่อนจะนำออกมาส่งขายให้ลูกค้า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับร้านค้าแน่นอน เพราะตนมั่นใจว่าตรวจสอบอย่างดีแล้ว บรรจุภัณฑ์ไม่มีรอยรั่วที่จิ้งจกจะเข้าไปได้ เชื่อว่าน่าจะมาจากกระบวนการผลิตมากกว่า

Credit : erorin.net genericamoxicillinamoxil.net gobyrail.net grain244.com greatrivercoffee.com hangwiththewang.com hawaiianalife.com heartynutrition.net hollandaises.net hukuksiteleri.info