โค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพ รสนา ประกาศลั่น ไม่เลือกรสนา ชัชชาติมาแน่ อาสาเป็นเครื่องมือต่อสู้กับความทุจริต รสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ได้ออกมาโพสต์ข้อความพร้อมภาพลงบนเฟซบุ๊ก โดยบนรูปนั้นมีการเขียนข้อความพาดหัวว่า “โค้งสุดท้าย ไม่เลือกรสนา ชัชชาติมาแน่”
โดยข้อความเฟซบุ๊กระบุว่า “ในโค้งสุดท้ายของการหาเสียง ดิฉันขอประกาศ “ยุทธศาสตร์ส่งเสริมคนดีให้ปกครองบ้านเมืองและต้องหยุดการทุจริตให้สำเร็จ” เพื่อหักล้าง “ยุทธศาสตร์ ไม่เลือกเรา เขามาแน่ “
ยุทธศาสตร์ส่งเสริมคนดีให้ปกครองบ้านเมืองเป็นพระบรมราโชวาทของในหลวงรัชกาลที่ 9 ความว่า “ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้หมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุข เรียบร้อยจึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้…”
คนดีในที่นี้ ทรงพระราชทานความหมายไว้ในหลายโอกาส ว่าต้องมี ความซื่อสัตย์สุจริต และการหยุดการทุจริตนั้น เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเคยทรงมีพระราชดำรัสแก่คณะผู้ว่าราชการจังหวัดแบบบูรณาการ ในโอกาสเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ เมื่อวันที่ ๘ ตุลาคม๒๕๔๖ ความตอนหนึ่งว่า
“ถ้าทุจริตแม้แต่นิดเดียว ก็ขอแช่งให้มีอันเป็นไป พูดอย่างนี้หยาบคายแต่ว่าขอให้มีอันเป็นไป แต่ถ้าไม่ทุจริต สุจริตและมีความตั้งใจมุ่งมั่นสร้างความเจริญ ขอให้ต่ออายุได้ถึง ๑๐๐ ปี ส่วนคนไหนที่อายุมากแล้วขอให้แข็งแรง ความสุจริตจะทำให้ประเทศไทยรอดพ้นอันตราย…”
หากน้อมนำพระบรมราโชวาท ใส่เกล้าใส่กระหม่อมแล้วจะเห็นว่า การทุจริตแม้เพียงนิดเดียวก็ถือว่าเป็นอนันตริยกรรมของข้าราชการประจำและข้าราชการการเมือง รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดที่ไม่สมควรเข้ามาบริหารบ้านเมืองเลย แต่ถ้าไม่มีการทุจริต พระองค์ท่านตรัสว่า “ภายใน 10 ปี เมืองไทยน่าจะเจริญ”
ขออัญเชิญพระราโชวาทที่ในหลวงทรงตรัสในคราวเดียวกันอีกว่า “ต้องหยุดการทุจริตให้สำเร็จ และไม่ทุจริตเสียเอง”
นี่คือที่มาของนโยบายรวบยอดของดิฉัน ที่ว่า “ต้องหยุดโกง กรุงเทพเปลี่ยนแน่” ดังนั้นดิฉันจึงขอย้ำว่าขอให้พี่น้องชาวกทม.เลือกผู้ว่าฯ ตามแนวทางแห่งพระบรมราโชวาท ซึ่งอยู่บนหลักการของการส่งเสริมคนดีให้ปกครองบ้านเมือง ผู้บริหารที่ดีต้องไม่ทุจริตแม้แต่นิดเดียว และต้องหยุดการทุจริตให้สำเร็จ
ขณะนี้มีคอลัมนิสต์สื่อใหญ่ ส.ส และพรรคการเมืองบางพรรคออกมาโฆษณาชวนเชื่อเพื่อให้คน กทม.มาลงคะแนนเลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์โดยอาศัยดูคะแนนจากผลโพลที่สุ่มมาเพียงพันกว่าคนที่อาจจะมีการจ้างเพื่อปั่นคะแนนมาจูงกระแสให้เสียงจริงของชาว กทม.กว่า 4 ล้านคนหลงเลือกคนที่มีผลคะแนนสูงสุดตามโพล เพื่อใช้ยุทธศาสตร์ “ไม่เลือกเรา เขามาแน่” แม้คนนั้นจะไม่ใช่คนที่เราศรัทธา ชื่นชอบก็ตาม ต้องกลืนเลือด ฝืนใจ เพื่อเอาชนะอีกฝ่ายให้ได้ คล้ายกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เมื่อปี 2556 ที่ใช้ยุทธศาสตร์ “ไม่เลือกเราเขามาแน่” แต่สร้างความเสียหายภายหลัง
ชาวกทม.ได้ประโยชน์อะไรบ้างจากยุทธศาสตร์นั้น หากเลือกคนที่ถูกกำหนดด้วยมายาคติว่าเป็นพวกของตัวเองไปปกครองบ้านเมือง แต่เขาไปโกงบ้านกินเมือง มันจะมีประโยชน์อะไร มันดีต่อประชาชนชาวกทม.อย่างไร ?
ยุทธศาสตร์ไม่เลือกเรา เขามาแน่ เป็นมายาคติที่ฝ่ายการเมืองใช้ปั่นหัวประชาชนเพื่อให้เลือกฝ่ายตัวเองที่มีธุรกิจการเมืองแอบแฝงอยู่เบื้องหลังหรือไม่?
ยุทธศาสตร์เบื้องหลังที่แท้จริงคือ “ยุทธศาสตร์แบ่งแยกเพื่อปกครอง” และมาโกงกินภาษีของประชาชน ใช่หรือไม่?
ประชาชนชาวกทม.จะได้ประโยชน์อะไร ถ้าฝ่ายที่เราเลือกมาแล้วโกงกินบ้านเมืองสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนไม่ต่างกัน เมื่อปี2556 เลือกผู้ว่าฯด้วยยุทธศาสตร์นี้ และสิ่งที่คน กทม.ได้ อาทิเช่น
1)อุโมงค์ยักษ์มูลค่ารวมหลายหมื่นล้านแต่ไม่สามารถแก้น้ำท่วมได้
2)การทำสัญญาจ้างบีทีเอสเดินรถในส่วนต่อขยาย ไปถึงปี 2585 เป็นการล็อคสเปกเอื้อประโยชน์ ให้บีทีเอสใช่หรือไม่ ทั้งยังเป็นสัญญาจ้างเดินรถส่วนต่อขยายที่กทม.ไม่ได้เป็นเจ้าของ แต่ทำไปถึงปี 2585 ด้วยงบประมาณ 1.61 แสนล้านบาทโดยรู้ดีว่ารถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนหลักจากหมอชิต – อ่อนนุชที่ให้สัมปทานบีทีเอส 30 ปี สมัยลุงจำลอง ศรีเมืองจะหมดอายุสัมปทานในปี2572 เป็นการล็อคเสปกเพื่อเอื้อประโยชน์ให้บีทีเอส ใช่หรือไม่ ซึ่งกรณีนี้ถูกฟ้องอยู่ใน ปปช.
3)ซุ้มไฟปีใหม่เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว งบ 39 ล้านบาท
เมื่อเกิดการรัฐประหารคสช.ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 คสช.สั่งปลดผู้ว่า กทม.จากการเลือกตั้ง ด้วยข้อหาพัวพันทุจริตซุ้มไฟปีใหม่มูลค่า39 ล้านบาท แต่กลับไม่ยกเลิกสัญญาจ้างเดินรถของอดีตผู้ว่าฯ คนเดียวกันมูลค่า 1.61 แสนล้านบาท ทั้งที่คสช.มีอำนาจตามม.44 ที่จะแก้ไขสิ่งผิดได้ แต่กลับสวมตอเดินเรื่องจะต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวอีก30ปี ในราคา65 บาท ใช่หรือไม่
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป